สำรวจตัวตนแท้จริง ผ่านการเชื่อมต่อกับจิตสูงกว่า (Higher Self) | นัดหมายการสะกดจิต QHHT

ยุติสัญญากรรม : 3 ขั้นตอนทรงพลัง จบวงจรปัญหาชีวิตวนลูป สู่การตื่นรู้ด้วยเทคนิค QHHT

ปลดปล่อยสัญญากรรม ก้าวสู่บทใหม่แห่งการตื่นรู้ ตามแนวคิด QHHT บทเรียนชีวิต ที่จิตวิญญาณเลือกมา 3 รูปแบบ ยกเลิกสัญญากรรม และตอกย้ำความเป็นจริงใหม่ เพื่อการตื่นรู้

คุณเคยรู้สึก เหมือนชีวิตกำลังวนลูปอยู่ที่เดิมไหม…

  • ความสัมพันธ์... ที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
  • สถานะการเงิน... ที่ย่ำอยู่กับที่
  • ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง... ที่วนกลับมาซ้ำ ๆ

 

จากการทำงานด้าน QHHT (Quantum Healing Hypnosis Technique) ของคุณย่าโดโลเรส แคนน่อน – ท่านได้สะกดจิตช่วยคนแก้ปัญหาชีวิตและจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพ การงาน การเงิน และความสัมพันธ์ รวมทั้งคำถามทางจิตวิญญาณที่ว่า “ฉันเกิดมาทำไม?” 

จากการทำงานกับผู้รับเซสชั่น QHHT นับหมื่นเคส คุณย่าโดโลเรส ได้ค้นพบคำตอบของรูปแบบชีวิตวนลูป ก้าวไม่พ้นจากวังวนปัญหาเดิมๆ ท่านพบคำตอบของปริศนานี้ ว่า.. มันคือ “บทเรียนของชีวิต” ที่เราเลือกให้ตัวเองมาเรียนรู้ หรือจะกล่าวว่า มันเป็น “สัญญากรรม” ที่เราเขียนให้กับตัวเอง

 

คุณย่าโดโลเรส เปิดเผยว่า...

มนุษย์ก่อนมาเกิดนั้น ได้เลือกมาล่วงหน้าแล้ว ว่าตัวเองต้องการมา “เผชิญกับความท้าทาย” เพื่อเรียนรู้บทเรียนบางอย่า

ดังนั้น เมื่อมาเกิดในโลกมนุษย์แล้ว คุณจึงได้รับบทเรียนเฉพาะ (ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง) สำหรับจิตวิญญาณของตัวคุณเอง 

และบทเรียนนั้น จะมาปรากฏในชีวิตคุณ ในรูปแบบของ “ปัญหา อุปสรรค และความท้าทาย” ของชีวิตที่คุณจะต้องผ่านมันไปให้ได้ เพื่อพาตัวเองไปสู่การ “ตื่นรู้” 

 

  • บางคนเลือก ปัญหาครอบครัว/ปัญหาความสัมพันธ์.. มาเป็นบทเรียน เพื่อให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการให้อภัย และความรักอันไร้เงื่อนไข
  • บางคนเลือก ปัญหาสุขภาพ.. มาเป็นบทเรียน เพื่อให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการรักตัวเอง
  • บางคนเลือก ปัญหาการเงิน.. มาเป็นบทเรียน เพื่อให้ได้เรียนรู้จักการแบ่งปัน หรือการขอความช่วยเหลือ

 

และเมื่อมาใช้ชีวิตในโลกแล้ว บทเรียนเหล่านี้ กลายมาเป็นรูปแบบซ้ำๆ ในชีวิต ที่เรารียกว่า “กรรม”

 

กรรม คืออะไร

“กรรม” คือบทเรียนซ้ำๆ ที่เราจะต้องเรียนรู้ และผ่านมันให้ได้ และเมื่อเราสามารถผ่านบทเรียนนั้นแล้ว กรรมอันนั้นก็จะไม่มีผล หรือไม่เป็นปัญหาในชีวิตเราอีกต่อไป

นี่คือเป้าหมายของการมาเกิด และการเลือกบทเรียน - เพื่อให้เราได้เรียนรู้ และจิตวิญญาณของเราได้เติบโต และเข้าสู่มิติแห่งการตื่นรู้

ชาวพุทธส่วนใหญ่เชื่อว่า "กรรม" คือสิ่งที่ทุกคนจะต้องชดใช้ความผิดบาปในอดีต แต่ในการทำงาน QHHT ของคุณย่าโดโลเรส ได้พบความหมายของ “กรรม” ในอีกด้านหนึ่ง โดยท่านบอกว่า มันคือ “สัญญากรรม” ที่คุณเลือกมาเพื่อให้จิตวิญญาณของตัวเองได้เรียนรู้และเติบโตและตื่นรู้

คุณย่าโดโลเรส เปิดเผยว่า จิตวิญญาณที่พร้อมมาเกิดในโลกมนุษย์จะได้พบกับ Guides “ผู้นำทางแห่งจิตวิญญาณ” ผู้ช่วยคุณกำหนดเป้าหมายที่ต้องการมาเรียนรู้ในโลกมนุษย์ ว่า ต้องการมาเรียนรู้อะไร 

คุณอาจต้องการมาเรียนรู้เรื่อง “ความเมตตา” “การปล่อยวาง” “การมีคุณค่าของตัวเอง” ดังนั้นคุณจึง “ออกแบบหลักสูตรชีวิตของตัวเอง” คุณเขียน “สัญญา” ขึ้นมา และบอกว่า...“ในชีวิตที่จะมาเกิดนี้ ฉันต้องการเรียนรู้เรื่องคุณค่าของตัวเองให้จบสิ้นจริง ๆ”

คุณจึงกำหนดว่า…

“ฉันจะสร้างสถานการณ์ที่ทำให้คุณค่าของฉันถูกท้าทาย เพื่อที่ฉันจะได้ค้นพบว่า คุณค่านั้นอยู่ภายในตัวฉันเอง ไม่ใช่แสวงหาจากคนอื่น”

คุณอาจเลือกเกิดในวัยเด็กที่ยากลำบาก เลือกคู่ครองที่ชอบวิจารณ์หรือดูแคลน หรือเลือกงานที่ไม่เคยมีใครเห็นคุณค่าในตัวคุณเลย

 

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ กรรม ที่เป็นการลงโทษ

แต่มันคือ “อุปสรรค” ที่คุณออกแบบปัญหาให้กับตัวเองอย่างละเอียด” เพื่อฝึกฝนให้คุณแข็งแกร่งขึ้นในบทเรียนที่คุณต้องการเรียนรู้ และเป็นเส้นทางแห่งการตื่นรู้ของคุณเอง

จากงาน QHHT คุณย่าโดโลเรส พบว่า “สัญญากรรม” ที่มนุษย์เลือกออกแบบให้ตัวเองนั้น มี 3 รูปแบบ (Archetype) ที่พบบ่อย ดังนี้

รูปแบบ 1 : สัญญาแห่งกระจก (Contract of the Mirror)

นี่คือสัญญากรรม ที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับ “ความสัมพันธ์ของคุณกับตัวเอง” รูปแบบ “ สัญญาแห่งกระจก” จักรวาลจะส่งบุคคลมากมาย เข้ามาในชีวิตคุณ — คนเหล่านั้น เช่น คนรัก คนในครอบครัว เจ้านาย หรือเพื่อน — โดยที่บุคคลเหล่านี้ จะมาสะท้อน “บาดแผลในใจ” มาเพื่อสร้างความเจ็บปวดให้กับคุณ

ตัวอย่างเช่น

ถ้าปมบาดแผลของคุณ คือความเชื่อว่า “ฉันไม่มีคุณค่า” สัญญาแห่งกระจกจะส่งคนที่ “มองข้ามคุณ” “ไม่เห็นคุณค่า” หรือ “ทอดทิ้งคุณ” มาให้ พวกเขาไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อลงโทษคุณ แต่พวกเขาเป็นนักแสดงที่ คุณเคยสัญญาตกลงกันไว้ก่อนแล้ว ว่าเขาจะมาเพื่อแสดงบทที่ทำให้คุณหงุดหงิดกับการแสวงหาคุณค่าจากภายนอก จนในที่สุด คุณต้องหันกลับมาค้นหาคุณค่านั้นจากภายใน ความเจ็บปวดที่คุณรู้สึก — คือ “กระจก” ที่สะท้อนให้เห็นว่าบาดแผลอยู่ตรงไหน และถ้าคุณโทษ “กระจก” (โทษคนที่มาแสดงบทให้คุณเจ็บปวด) คุณก็พลาดบทเรียนทั้งหมด นั่นถือว่า สอบตก และคุณก็จะยังเจอบทเรียนเก่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ที่เข้ามาทำให้คุณเป็นทุกข์กับเรื่องนี้ วนลูปอยู่อย่างนั้น

 

รูปแบบที่ 2 : สัญญาแห่งการเป็นแสงสว่าง (Contract of Anchoring of the Light)

จิตวิญญาณที่เลือกเส้นทางนี้ มักตัดสินใจมาเกิดใน “สถานการณ์ที่ยากลำบาก” เช่น ครอบครัวที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง
หรือในพื้นที่ที่วุ่นวาย ปั่นป่วน และมีพลังลบ หน้าที่หลักของพวกเขา ไม่ใช่เพื่อการเรียนรู้ส่วนตัว แต่เพื่อทำหน้าที่เป็น “พลังงานของแสงสว่าง” พวกเขาคือ “ประภาคารแห่งแสง” ที่ถูกส่งมาเพื่อ “เป็นแสงสว่างแห่งความสงบ ความรัก และความมั่นคง” เขาทำหน้าที่ช่วยให้ผู้คนตื่นรู้ ท่ามกลางทะเลแห่งความโกลาหลของโลกนี้ จิตวิญญาณกลุ่มนี้มักรู้สึกเหมือน “คนแปลกหน้า” เหมือนโลกนี้ ไม่ใช่ที่ของเขา — พวกเขามาจากพลังงานที่มี “ความถี่สูง” จิตวิญญาณกลุ่มนี้ อาสามาเกิดเพื่อมาช่วยยกระดับความถี่ของโลกและมนุษย์

 

รูปแบบที่ 3 : สัญญาแห่งการปรับสมดุลกรรม (Contract of Karmic Balancing)

สัญญารูปแบบนี้ทำให้หลายคนคิดว่ามันคือ “การถูกกรรมลงโทษ” แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เลย สัญญานี้เกี่ยวข้องกับ “การคืนสมดุลของพลังงาน” ถ้าในอดีตชาติ วิญญาณเคย “ใช้พลังในทางที่ผิด” สัญญานี้อาจทำให้เขาเลือกมาเกิดในชีวิตที่ “ไร้อำนาจ” ไม่ใช่เพื่อทรมานตนเอง แต่เพื่อ “เข้าใจอีกด้านของสมการ” เพื่อเรียนรู้ “ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy)” เช่น วิญญาณที่เคยเป็น “เจ้านายที่โหดร้าย” อาจเลือกเกิดใหม่ในฐานะ “ลูกน้องผู้ถูกกดขี่” เพื่อสัมผัสและเข้าใจผลสะท้อนของการกระทำในอดีต

เป้าหมายไม่ใช่การลงโทษ
แต่คือ “การหลอมรวม” คือการที่วิญญาณพยายามกลับคืนสู่ “ความสมบูรณ์” ด้วยการเรียนรู้ทุกแง่มุมของประสบการณ์นั้นคุณย่าโดโลเรส กล่าวอย่างชัดเจนว่า — เมื่อบทเรียนแห่งความเห็นอกเห็นใจถูกเรียนรู้ “จากหัวใจอย่างแท้จริง” หนี้กรรมก็สิ้นสุดลง สัญญานั้นก็ถูกชำระสมดุลแล้ว

เมื่อคุณสามารถมองเห็น “รูปแบบของชีวิตตนเอง” ว่าอยู่ใน สัญญากรรมรูปแบบใด — เป็นกระจก เป็นแสงสว่าง หรือการปรับสมดุลกรรม คุณจะเข้าใจ “ทำไม” สิ่งเหล่านั้นจึงเกิดขึ้นกับคุณ

 

ก้าวแรกของการปลดปล่อย “สัญญากรรม”

การเข้าใจตรงนี้ คือก้าวแรกของการปลดปล่อย “สัญญากรรม” คุณไม่ใช่ผู้ที่ต้องรับ “ชะตากรรม” แต่คุณคือ “นักเรียน” ที่มาเรียนรู้ ใน “หลักสูตรที่ตัวเองออกแบบ” จิตวิญญาณของคุณรู้ว่าคุณสามารถ “ผ่านบทเรียนนี้ได้” คุณจะผ่านบทเรียนนี้ได้ ต่อไปนี้ คือ 3 ขั้นตอน ที่จะนำทางให้คุณผ่านบทเรียนนี้ ให้คุณสามารถลบล้างสัญญากรรม

 

ขั้นตอนที่หนึ่ง : สังเกตตัวเอง

เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นให้เราสังเกตตัวเอง ว่าอะไรคือ สิ่งเร้าที่กระตุ้นอารมณ์ (emotional triggers) สิ่งเร้านี้ เป็นสัญญาณบอกว่า เรื่องที่กำลังกระทบอารมณ๋และจิตใจคุณนี้แหล่ะ คือ “สัญญากรรม” ของคุณ ทุกครั้งที่คุณรู้สึกจี๊ด “อารมณ์ด้านลบพุ่งขึ้นมาแรง ๆ” เช่น ความโกรธ ความเศร้า ความวิตก ความอิจฉา — ให้คุณหยุด! แล้วทำขั้นตอนต่อไปนี้...

1. สังเกตอารมณ์ของตัวเองว่าอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น คืออะไร

2. มองหารูปแบบ (pattern) ของเหตุการณ์มันมักจะเป็นเหตุการณ์คล้ายๆ กัน และมาซ้ำๆ เช่น “เจ้านายไม่กล่าวชมงานของฉันในที่ประชุม”

3. จดบันทึก เหตุการณ์ และอารมณ์ความรู้สึกนั้น 

4. และค้นหาความเชื่อของคุณ ให้คุณถามตัวเองว่า “ฉันมีความเชื่ออะไรเกี่ยวกับตัวเอง หรือเกี่ยวกับโลกนี้ ถึงจะรู้สึกแบบนี้ได้?” ตัวอย่างคำตอบ เช่น “ฉันต้องเชื่อว่าคุณค่าของฉันขึ้นอยู่กับการยอมรับจากคนอื่น” หลังจากผ่านไป 72 ชั่วโมง ให้กลับมาทบทวนบันทึกทั้งหมดของคุณ คุณจะเริ่มเห็น “ความเชื่อรากฐานเดียวกัน” โผล่ขึ้นมาซ้ำ ๆ และมันจะ “ชัดเจนอย่างเจ็บปวด” นั่นแหละ — ความเชื่อนั้นคือ “บทเรียนที่คุณมาเรียนรู้” เพราะตัวกระตุ้น หรือคนที่ยั่วยุคุณ ไม่ใช่ศัตรู แต่มันคือ “การแจ้งเตือนจากระบบปฏิบัติการของจิตวิญญาณ” ที่กำลังบอกคุณอย่างตรงไปตรงมาว่า “ยังมีโปรแกรมนี้ทำงานอยู่ในใจของคุณนะ”

 

ขั้นตอนที่สอง : ประกาศยกเลิก “สัญญากรรม”

ขอให้คุณทำกระบวนการนี้ด้วยความตั้งใจ ให้คุณทำสมาธิ เพื่อเตรียมกายใจให้พร้อม สงบ นิ่ง เสมือนหนึ่งว่า นี่คือ “พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์” เพราะคุณกำลังจะเอ่ยถ้อยคำอันศักดิ์สิทธิ์ ก่อนกล่าวคำประกาศ — ให้คุณหลับตา วางมือลงบนหัวใจของคุณหายใจช้า ๆ ลึก ๆ และจง “รู้สึกขอบคุณ” อย่างแท้จริง และตั้งจิตเชื่อมต่อกับ Higher Self (ตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ของคุณ) เมื่อคุณพร้อมแล้ว ให้อ่าน “คำประกาศนี้” ออกเสียงดังชัดเจน

“ข้าพเจ้า [กล่าวชื่อเต็มของคุณ]

ขอยอมรับการมีอยู่ของ สัญญากรรมนี้
ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อสอนบทเรียนเรื่อง [ระบุบทเรียนที่คุณค้นพบ เช่น ‘คุณค่าตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข’]

ข้าพเจ้าขอแสดงความกตัญญูอย่างสุดซึ้ง
ต่อ Higher Self
ต่อผู้นำทางแห่งจิตวิญญาณแก่ข้าพเจ้า
และต่อทุกจิตวิญญาณที่มีส่วนร่วมในหลักสูตรนี้
สำหรับการรับใช้ในการเติบโตของข้าพเจ้า

บัดนี้ ข้าพเจ้าขอประกาศว่า
บทเรียนนี้ได้ถูก เรียนรู้ ซึมซับ และผนวกรวมเข้ากับตัวตนของข้าพเจ้า
อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน และถาวรแล้ว

หลักสูตรได้จบสิ้น
สัญญาได้ถูกทำให้สำเร็จเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว

ด้วยอำนาจแห่งเจตจำนงเสรีของข้าพเจ้า
ในฐานะ “ผู้สร้างที่มีอธิปไตยในตนเอง”
ข้าพเจ้าขอประกาศอย่างชัดเจนว่า
สัญญากรรมนี้ ได้จบสิ้นลงแล้ว

ข้าพเจ้าขอปลดปล่อยสายใยพลังงานทั้งหมด
รูปแบบกรรมเดิมทั้งหมด
และภาพจำซ้ำ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้

ข้าพเจ้าเปิดหัวใจ
รับความสุข และการพ้นแล้วแห่งบทเรียนนี้ 

มันเป็นเช่นนั้น — มันสำเร็จแล้ว
มันจบสิ้นแล้ว”

เมื่อกล่าวจบ
คุณจง “รู้สึกถึงความสมบูรณ์ของการกระทำนี้” นี่ไม่ใช่แค่คำพูดลอย ๆ — แต่มันคือ “การปิดคดีอย่างเป็นทางการในศาลแห่งจักรวาล” และคุณ — ผู้เขียนสัญญา — เพิ่งได้ “ยุติสัญญานั้นอย่างเป็นทางการ” ด้วยตนเอง

 

ขั้นตอนที่สาม : ตอกย้ำความเป็นจริงใหม่

คำประกาศนั้นทรงพลังมาก แต่พลังของมันจะคงอยู่ได้ ต่อเมื่อคุณเปลี่ยน “คลื่นพลังที่คุณส่งออกไป” ถ้าคุณปิดสัญญาเรื่อง “ความไม่มีคุณค่า” แล้ว แต่ยังคิด พูด และรู้สึกเหมือนคนที่ไม่มีคุณค่า คุณก็เพียงแค่ “สร้างสัญญาใหม่ที่เหมือนเดิมอีกฉบับ” ดังนั้น ตอนนี้คุณต้อง “ดำรงตนในฐานะผู้สำเร็จการศึกษา” ไม่ใช่ผู้เรียนซ้ำ

เครื่องมือที่ช่วยคุณตอกย้ำความเป็นจริงใหม่ 

เครื่องมือที่ 1 : โปรโตคอล “I Am” 

ให้คุณใช้คำว่า “I Am” เพื่อเข้าถึงภาวะ (State of Being) เช่น “I am peace”, “I am worthy” และเขียนบันทึกจิตวิญญาณจากอนาคต ทุกวัน ต่อเนื่อง 30 วัน ให้คุณเขียนย่อหน้าสั้น ๆ จากมุมมองของ “คุณในอนาคต” ที่ได้จบบทเรียนกรรมนี้แล้ว  เช่น.. “ฉันคือความมั่นใจ” “วันนี้ฉันมั่นคงในคุณค่าของตัวเอง เมื่อมีความท้าทายเกิดขึ้น ฉันรับมือด้วยความสงบเพราะฉันยืนอยู่บนพื้นฐานแห่งคุณค่าที่แน่วแน่ภายในใจ” เมื่อคุณเขียนซ้ำทุกวัน คุณกำลัง “เขียนอัตลักษณ์ใหม่ของตัวเองให้ปรากฏในความจริง

เครื่องมือที่ 2 : เทคนิคการสร้างจินตภาพแห่งเหตุการณ์ใหม่ 

เมื่อคุณเขียนเครื่องมือที่ 1 แล้ว ให้คุณ ใช้จินตภาพสร้างและเขียนเหตุการณ์ใหม่ให้กับคนที่เกี่ยวข้องด้วย ถ้าคุณมีประสบการณ์เจ็บปวดกับใครบางคน ให้คุณ “จินตนาการใหม่” ว่าพวกเขาเองก็แสดงออกจาก “ตัวตน Higher Self” และฉากนั้นจบลงด้วย “ความเข้าใจและความเมตตาร่วมกัน”

ทำไมถึงต้องทำเช่นนี้?

เพราะคุณกำลังยอมรับ “ความจริงแห่งหนึ่งเดียว (The One Field)” ทุกสิ่งเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายพลังงานเดียว เมื่อคุณเยียวยาความทรงจำในมุมของคุณ คุณกำลังส่ง “คลื่นพลังแห่งการเยียวยา” กระเพื่อมออกไปทั่วทั้งโครงข่ายของจักรวาล

ผลงานของคุณย่าโดโลเรส ได้ผ่านการพิสูจน์จากผู้รับการบำบัดนับหมื่นแล้วว่า กระบวนการเหล่านี้สามารถส่งผลที่ “จับต้องได้จริง” แม้ในโลกทางกายภาพ — บางครั้งคนที่คุณทำการเยียวยาในพลังงาน อาจรู้สึกเบา สงบ หรือเปลี่ยนพฤติกรรมไปเองอย่างอธิบายไม่ได้ คุณยังได้ทำการ ปลดปล่อยรูปแบบพลังงานของบรรพบุรุษ ที่อาจถูกผูกไว้ในสัญญาของคุณด้วย และนี่ — คือ “งานของสถาปนิก” ไม่ใช่แค่การสร้างความจริงของตนเอง แต่คือ “การร่วมออกแบบแบบแปลนแห่งความจริงใหม่ของมวลมนุษย์ทั้งหมด”

 

CONTACT

  • Phone
    094 982 8922
  • Email
    info@qhht-thailand.com
  • Line ID
    @qhht-thailand
  • Address
    QHHT Thailand เลขที่ 68/25 ถ.บางกรวย-วงแหวน
    ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 1113